ราคาทองคำวันนี้
โดยมูลค่าทอง วันจันทร์ 20 ตุลาคม 57 เวลา 09.32 น. สนนราคาทองปรับตัวลง
ทองคำแท่งขายบาทละ 19,000.00
ทองรูปพรรณขายบาทละ 19,400.00
ลงทุนหุ้นป้ายแดงอย่างไร ไม่ให้เจ็บตัว กระแสการนำกิจการเข้าจดทะเบียนในหุ้นกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งตั้งแต่ปี 2555 ที่ทะลวงมา เช่นเดียวกับปี 2556 นี้ที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อต้องการระดมทุนหรือไม่ก็ตุนกระสุนเพื่อรองรับการขยายงานและการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community) หรือ AEC ในปี 2558
หุ้นจอง ใช่ไหม หุ้นไอพีโอ ก็คือหุ้นเพิ่มทุนที่ออกพร้อมทั้งเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกของบริษัทที่จักเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ซึ่งมี 2 ตลาด คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) พร้อมกับตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ขณะที่มีการเรียกหุ้นจองกันแบบสนุกๆ หรือไม่ก็เรียกกันเล่นๆ ว่า หุ้นป้ายแดง
หุ้นใหม่ป้ายแดง ที่เปิดขายแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หลายครั้งก็สร้างความดีใจให้กับนักลงทุน เพราะจองซื้อแล้วขายได้กำไร แต่บางครั้งก็ทำนักลงทุนผิดหวังกับสนนราคาหลังเข้าตลาดที่ปรับตัวลงตํ่ากว่าราคาจองซื้ออย่างไม่คาดฝัน จนทำให้มีการตั้งคำถามแบบงงงวยว่า หุ้นจองตัวนี้ตัวนั้นตั้งราคาขายแพงเกินไปหรือไม่เปล่า
จักว่าไปแล้วหุ้นป้ายแดงไม่ใช่ของวิเศษที่ใครจองซื้อมาแล้วจะได้กำไรเสมอไป แต่ก็ไม่ใช่วายร้ายที่จะมาแย่งชิงเงินในกระเป๋าเราเช่นกัน แต่ความจริงแล้วหุ้นไอพีโอก็เป็นเหมือนเพื่อนใหม่ที่เราควรทำความรู้จักจนแน่ใจ ก่อนตกลงใจร่วมลงทุนไปด้วยกัน ดังนั้น ก่อนที่จักตัดสินใจลงทุนในหุ้นใหม่ป้ายแดงสักตัว เราควรเรียนรู้วิธีคบเพื่อนใหม่ ว่าจะลงทุนกับหุ้นใหม่ป้ายแดงอย่างไร ไม่ให้เจ็บตัว
คำแนะนำจาก สุรีรัตน์ สุรเดชะ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยพร้อมด้วยพัฒนาตลาดทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับตลาดทุน แนะนำว่าสิ่งสำคัญอันดับแรกที่นักลงทุนต้องดู คือ การทำความรู้จักบริษัท เข้าใจธุรกิจ เพราะว่าควรศึกษาข้อมูลบริษัทผู้ออกหุ้นไอพีโอก่อนว่าทำกิจการอะไร ใครเป็นผู้บริหาร พร้อมด้วยภาพรวมของอุตสาหกรรมว่ามีโอกาสหรือความเสี่ยงอย่างไร
ขั้นตอนต่อมาที่จักช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่เงินลงทุนของเรา คือ การให้ความสนใจงบการเงินของบริษัท ก็เพราะว่าไม่มีอะไรที่จักสะท้อนฐานะทางการเงินพร้อมด้วยผลประกอบการในอดีตของบริษัทได้ดีไปกว่างบการเงิน เพราะหากมองย้อนหลังกลับไปแล้วบริษัทไหนที่มีผลกำไรสมํ่าเสมอก็น่าจักสบายใจได้มากกว่าบริษัทที่มีกำไรวูบขึ้นวูบลง
ทันทีที่ทำความรู้จักบริษัทพร้อมด้วยประทับใจผลการดำเนินงานแล้ว ก่อนจักตกลงใจซื้อหุ้นก็ควรดูก่อนว่า ค่าหุ้นไอพีโอตัวนี้แพงเกินไปหรือไม่ก็ไม่ เพราะดูได้จากอัตราค่าปิดต่อกำไรต่อหุ้น หรือไม่ก็พี/อี เรโช ซึ่งคำนวณจาก ค่าเสนอขาย หารด้วย กำไรสุทธิต่อหุ้นของปีล่าสุด ซึ่งสะท้อนว่าผู้ลงทุนจักต้องจ่ายเงินซื้อหุ้นเป็นกี่เท่าของกำไรต่อหุ้น
เหรออีกนัยหนึ่งก็คือ บริษัทนี้จะใช้เวลากี่ปีจึงจะทำกำไรได้เท่ากับเงินทั้งหมดที่ผู้ลงทุนจ่ายเพื่อซื้อหุ้น ดังนั้น หุ้นที่มีพี/อี ต่ำ ย่อมถูกกว่าหุ้นที่มีพี/อี สูง
ข้อมูลสำคัญอีกประการหนึ่งที่ผู้ลงทุนควรทราบ คือ การเสนอขายหุ้นไอพีโอนี้มีส่วนของเจ้าของเดิมร่วมขายอยู่ด้วยหรือเปล่า และเป็นสัดส่วนที่สูงหรือไม่ไม่ เหรอเป็นการออกหุ้นใหม่ทั้งหมด ต่างว่าเป็นกรณีที่เจ้าของเดิมร่วมขายในสัดส่วนที่สูงมาก อาจทำให้ต้องกลับมาคิดว่าหุ้นไอพีโอตัวนี้มีมูลค่าแพงเกินไปหรือไม่ไม่ ทันทีที่เทียบกับพี/อี ของบริษัทอื่นในอุตสาห กรรมเดียวกันที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์
ท้ายสุดก่อนตกลงใจซื้อหุ้นไอพีโอ อย่าลืมให้ความสำคัญกับวัตถุประสงค์การระดมทุน ซึ่งเป็นหนึ่งในสนธิสัญญาณก่อนการลงทุน ก็เพราะว่าแม้บริษัทระดมเงินเพื่อนำไปใช้ชำระหนี้ ก็จะมีผลให้บริษัทลดภาระดอกเบี้ยจ่ายได้ แต่สมมติว่านำไปใช้เพื่อการลงทุนซื้อเครื่องจักร ขยายโรงงาน เหรอการขยายตลาดใหม่ ก็น่าจะให้ให้คำมั่นณที่สดใสกว่าในระยะยาว ก็เพราะว่าแสดงถึงโอกาสในการเพิ่มยอดขาย สร้างรายได้ในอนาคต
อีกหนึ่งมุมมองและคำแนะนำที่น่าจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนด้วยการลงทุนในหุ้นไอพีโอ เพราะ ธันวา เลาห
ศิริวงศ์ ชายวัย 47 ปี ที่ปลงใจลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย เพื่อมาเล่นหุ้นเป็นอาชีพ กล่าวว่า หากไม่นับเรื่องคุณภาพของกิจการแล้ว เป็นการยากที่จักสรุปว่า ราคาซื้อ-ขายวันแรกของหุ้นไอพีโอจะสูงไม่ใช่หรือต่ำกว่ามูลค่าเสนอขายด้วยปัจจัยพร้อมด้วยแรงจูงใจต่างๆ
ดังนั้น ต้องศึกษารายละเอียดตามหนังสือชี้ชวนอย่างดี ยิ่งได้รับจัดสรรในปริมาณที่มีนัยสำคัญ ยิ่งต้องศึกษาเป็นพิเศษทั้งด้านคุณภาพพร้อมด้วยค่าเช่นเดียวกับการซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาวทั่วไป เพราะต้องนึกไว้เสมอว่า หุ้นไอพีโอนั้นไม่มีประวัติส่วนตัวพร้อมด้วยผลงานที่เปิดแสดงตัวมากนัก การเสนอขายส่วนใหญ่จักเป็นช่วงเวลาที่ดีของกิจการ พร้อมทั้งต้องไม่ลืมว่า การทำไอพีโอนั้นเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการลดสัดส่วนถือครองของผู้ถือหุ้นเดิมหรือไม่ก็ผู้บริหาร
มูลค่าทองย้อนหลังที่นี้
http://moneygold11.blogspot.com/